top of page
ค้นหา

EGO

อัปเดตเมื่อ 12 ก.ย.

อัตตา คืออะไร

ครั้งหนึ่งเมื่อเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเคยถามนิสิตว่า

“ทำไมน้ำตาลถึงหวาน”

และทำไมเกลือถึง “เค็ม”

หวานและเค็มคืออะไร

——————————————————

นิสิตท่านหนึ่งตอบว่า มันเป็น“ธรรมชาติ” นะคะอาจารย์

——————————————————

และถ้าถามต่อว่า แล้ว ”ธรรมชาติ“ คืออะไร

คาบนั้นน่าจะนอกเรื่อง Food Biochemistry

ออกไปไกลมาก ยังไม่เล่าต่อละกันนะคะ

สำหรับในคลาสนี้ ….เราตั้งโจทย์ในใจ

เฉลยโจทย์ทีหลังรอให้ได้คำตอบพร้อมกันก่อน


โจทย์วิทยากร คือ จะสลายอัตตา

ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไร

(เพราะทุกวันนี้ หัวหน้าสั่งงานอะไรไม่ได้เลย : อันนี้โจทย์ลูกค้า)

———————————————————-

อัตตา คืออะไรล่ะ

เรากำลังจะสลายอัตตา แล้วอัตตาคืออะไร

———————————————————-

อัตตา หรือ ego คือ กำแพง

(ปกป้องความอ่อนแอหลังกำแพง)

อัตตา คือ รปภ (รักษาความปลอดภัย)

(Mind security guard)  

อัตตา คือ เทวดาพ่อทูนหัว (Godfather)

(ที่มีอยู่กับตัวและใจเราทุกคนตลอดเวลา)


Human being born ignorant

ธรรมชาติ เลยให้ Ego

มารักษาความปลอดภัยให้กายและใจ

อัตตา ประกอบขึ้นจาก ความกลัวซึ่งเป็นผลมาจากความ

“ไม่รู้” และเมื่อเติบโตมากขึ้นเรียนรู้มากขึ้น

เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น กายและใจแข็งแรงขึ้น

สติมีมากขึ้นอัตตา จะ “อ่อนกำลัง” ลงไปเอง


ตามธรรมชาติและถ้ามีปัญญาและเมตตา

จนถึงที่สุดอัตตา จะ “สลายตัว” ไปเลย

เราส่วนมาก ชอบทำลายอัตตาคนอื่นด้วยการ

”ทุบกำแพงบ้าน“

(ตำหนิ ต่อว่า ด่าทอ นินทา ใส่ร้ายออก

คำสั่ง ข่มขู่ อิจฉา หน้าตึง ฯลฯ)


ซึ่งวิธีพวกนี้นอกจากไม่ได้ผลแล้ว

ยังทำให้กำแพงหนาขึ้น สูงขึ้น แข็งแรงขึ้น

เราจะเข้าไม่ถึงใจใครได้เลย

ด้วยวิธีพวกนี้ เพราะมันคือ “การท้ารบ”

ความเจ็บปวด บาดแผลในอดีตที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ความเชื่อ ประสบการณ์เก่า

ก็เป็นสาเหตุของการสร้างกำแพงที่หนาทึบได้


<< ไม่มีใครชอบถูกทุบกำแพงหรอกค่ะ >>


แรงไปก็แรงกลับ ถ้าสติ และปัญญา

เสมอกันและอัตตาไม่ได้อ่อนกำลังลง

ตามอายุสถานภาพ ชาติตระกูล อาชีพ เพศสภาพ

ระดับการศึกษา หรือจำนวนเงินในกระเป๋า

แต่อ่อนกำลังลงตาม ปัญญา

(ความสามารถในการเข้าใจธรรมชาติ)

ความมีเมตตา และกำลังสติในคลาสนี้


เราชวนกัน กด Intercom

เคาะประตูบ้าน ก่อนเข้าบ้านคนอื่นค่ะ

แต่ละบ้าน ก็สร้างกำแพงไม่เหมือนกัน

หาประตูบ้านให้เจอก่อน แล้วเคาะอย่างเป็นมิตร


เค้าเชิญเข้าบ้านแล้ว (เปิดใจแล้ว)

ค่อยชวนกันคุย ชวนกันกินขนม ชวนกันปาร์ตี้

เป็นคลาสที่อิ่มเอมหัวใจที่สุดเพราะ

เมื่อเรามีกุญแจไขเข้าไปในใจคน

ก็ไม่ต้องหงุดหงิดสับสนเพราะพูดแล้ว

“ไม่มีคนฟัง” อีกต่อไป

(ไม่ต้องไปทุบกำแพง หรือปีนเข้าบ้านใครอีกแล้ว)




ดร.ณพิชญา พชรปิยังกูร

Course Director

Bliss Quality Coraporation., Ltd.



 

ความคิดเห็น


bottom of page